โซลูชั่นเพื่อความกระชับและอ่อนเยาว์: ทำความเข้าใจหัตถการกับโครงสร้างชั้นผิว
- Adora Clinic

- Oct 19
- 3 min read
Updated: Oct 21
การตัดสินใจเลือกเทคโนโลยียกกระชับผิวที่เหมาะสมที่สุด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงของเครื่องมือเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับความเข้าใจว่า ปัญหาความหย่อนคล้อยของคุณเกิดขึ้นที่ชั้นผิวหนังใด และเทคโนโลยีใดที่สามารถส่งพลังงานลงไปแก้ไขปัญหานั้นได้อย่างแม่นยำ
1. เรื่องของชั้นผิว: ต้นตอของปัญหาผิวที่คุณต้องรู้
ผิวหนังของคนเราแบ่งออกเป็น 3 ชั้นหลัก ๆ ซึ่งแต่ละชั้นมีหน้าที่และเกิดปัญหาที่แตกต่างกัน

2. เปรียบเทียบเทคโนโลยียกกระชับ 5 ตัวท็อป: เจาะลึกถึงชั้นผิว
เครื่องมือยกกระชับผิวส่วนใหญ่จะใช้พลังงานความร้อน (45°C–70°C) เพื่อกระตุ้นการหดตัวของคอลลาเจนเดิมและสร้างคอลลาเจนใหม่ในระยะยาว สิ่งที่แตกต่างกันคือ ประเภทพลังงาน และ ความลึก ที่สามารถลงไปได้

การส่งผลต่อชั้นผิวโดยละเอียด (Detailed Skin Layer Effects)

1. ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis)
Thermage, Oligio, Ulthera, HIFU, Sofwave: ทั้ง 5 เครื่อง "ข้ามผ่าน" (Bypass) ชั้นนี้ไปครับ พลังงานจะถูกส่งลงไปชั้นล่างโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน จึงไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น (No Downtime)
2. ชั้นหนังแท้ (Dermis) - ชั้นคอลลาเจนและอีลาสติน
Thermage และ Oligio: นี่คือ "เป้าหมายหลัก" ของเครื่องกลุ่ม Monopolar RF พลังงานความร้อน (RF) จะแผ่เป็นก้อน (Bulk Heating) ลงไปทั่วทั้งชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการจัดเรียงตัวและการสร้างคอลลาเจนใหม่ (Neocollagenesis) ทำให้ผิวแน่นและหนาตัวขึ้น
Sofwave: นี่คือ "เป้าหมายหลัก" เช่นกัน โดยพลังงาน SUPERB™ (Synchronous Ultrasound Parallel Beam) จะเน้นที่ความลึก 1.5 mm (ชั้นหนังแท้ส่วนกลาง หรือ Mid-Dermis) เพื่อสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่โดยเฉพาะ จึงเด่นเรื่องการลดริ้วรอย
Ulthera และ HIFU: แม้เป้าหมายหลักจะลึกกว่า แต่ก็มีหัวยิงที่ความลึก 3.0 mm ซึ่งส่งผลต่อชั้นหนังแท้ส่วนลึก (Deep Dermis) ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้เช่นกัน (แต่เป็นผลรองจากการยกชั้น SMAS)
3. ชั้นไขมัน (Hypodermis / Subcutis)
Thermage และ Oligio: พลังงาน RF สามารถลงไปถึงชั้นไขมันได้ และมีความสามารถในการ "สลายไขมัน" (Lipo-reduction) เล็กน้อย จึงเหมาะกับคนที่มีไขมันบริเวณแก้มหรือเหนียง
Ulthera และ HIFU: พลังงานจะพุ่งผ่านชั้นไขมันไปเป็นจุดๆ (Focused) เพื่อไปที่ชั้น SMAS โดยทั่วไปจะไม่เน้นสลายไขมัน (ยกเว้น HIFU บางยี่ห้อที่มีหัวยิงสลายไขมันโดยเฉพาะ) หากยิงผิดพลาดในคนไขมันน้อย พลังงานอาจทำให้ไขมันฝ่อ (Lipo-atrophy) หรือแก้มตอบได้
Sofwave: พลังงานตื้นเพียง 1.5 mm ไม่ลงถึงชั้นไขมัน จึงปลอดภัยสำหรับคนที่กลัวแก้มตอบ
4. ชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System)
Ulthera และ HIFU: นี่คือ "เป้าหมายหลัก" และ "จุดเด่นที่สุด" ของเครื่องกลุ่มนี้ พลังงาน Focused Ultrasound สามารถลงลึกถึง 4.5 mm ซึ่งเป็นชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำ ทำให้เกิดจุดความร้อนเล็กๆ (Thermal Coagulation Points) ทำให้ชั้น SMAS หดตัวและยกกระชับขึ้น เปรียบเหมือนการเย็บผิวจากด้านใน
Thermage, Oligio, และ Sofwave: พลังงาน ลงไปไม่ถึง ชั้น SMAS ครับ เครื่องเหล่านี้จะเน้นการทำงานที่ชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นหลัก
การเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่คาดหวังได้ (Expected Results)
แต่ละเครื่องมีจุดเด่นในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนี้ครับ
Thermage FLX
ผลลัพธ์หลัก: เน้นเรื่อง "ผิวแน่น" (Tightening) และ "กระชับ" (Firming) ทั่วทั้งใบหน้า
เหมาะกับใคร: คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่มาก แต่ผิวหลวม ผิวไม่เฟิร์ม หรือมีไขมันสะสม (เช่น เหนียง แก้ม) Thermage จะช่วยสลายไขมันส่วนเกินเล็กน้อยและกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ ทำให้ผิวดูแน่นขึ้น กรอบหน้าชัดขึ้น และริ้วรอยเล็กๆ ดูตื้นขึ้น
Oligio
ผลลัพธ์หลัก: คล้ายกับ Thermage คือ "ผิวแน่น" และ "กระชับ" รวมถึงช่วยเรื่องรูขุมขน
เหมาะกับใคร: เป็นเทคโนโลยี Monopolar RF ที่คล้าย Thermage มาก (มักถูกเรียกว่า "เทอร์มาจเกาหลี") ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกันคือผิวแน่นขึ้น คุณภาพผิวดีขึ้น ผลลัพธ์อาจอยู่ได้สั้นกว่า Thermage เล็กน้อย (6-12 เดือน เทียบกับ 1-2 ปี)
Ulthera SPT
ผลลัพธ์หลัก: เน้นเรื่อง "การยก" (Lifting) แบบดึงขึ้น
เหมาะกับใคร: คนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยชัดเจน ผิวตก แก้มห้อย ร่องแก้มลึก หรือต้องการยกคิ้วและหางตา เนื่องจาก Ulthera เป็นเครื่องเดียวที่ยิงพลังงานได้ลึกถึงชั้น SMAS (ชั้นพังผืดที่ใช้ผ่าตัดดึงหน้า) ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็นการ "ยก" โครงสร้างผิวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
HIFU
ผลลัพธ์หลัก: "การยก" (Lifting) คล้าย Ulthera
เหมาะกับใคร: เป็นเทคโนโลยี Focused Ultrasound เช่นเดียวกับ Ulthera และยิงได้ถึงชั้น SMAS เหมือนกัน จึงให้ผลลัพธ์ด้านการ "ยก" ที่คล้ายกัน แต่ผลลัพธ์มักจะอยู่ได้สั้นกว่า Ulthera และอาจต้องทำบ่อยกว่า
Sofwave
ผลลัพธ์หลัก: เน้น "คุณภาพผิว" และ "ริ้วรอย" (Skin Quality & Wrinkles) ในชั้นหนังแท้
เหมาะกับใคร: คนที่กังวลเรื่องริ้วรอยตื้นๆ ผิวไม่เรียบเนียน หรือผิวขาดความยืดหยุ่น (Elastin) โดยเฉพาะบริเวณคอและรอบดวงตา พลังงานของ Sofwave จะเน้นที่ชั้นหนังแท้ส่วนกลาง (Mid-Dermis) เพื่อสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ผลลัพธ์คือผิวที่ดูฟูขึ้นและริ้วรอยลดลง
การเปรียบเทียบความเจ็บ (Detailed Pain Comparison)
ความรู้สึกเจ็บของแต่ละเครื่องมีลักษณะเฉพาะตัว ดังนี้ครับ
Thermage FLX: ความรู้สึกเจ็บจะเป็นแบบ "ร้อนลึก" แผ่เป็นวงกว้างใต้ผิว แม้จะมีความร้อนสะสม แต่เครื่องมีระบบสั่น (Vibration) และระบบพ่นความเย็น (Cooling) ที่ช่วย "หลอก" ปราสาทรับความรู้สึก ทำให้ความเจ็บทนได้ง่ายขึ้นมาก
Oligio: ความรู้สึก "ร้อน" คล้าย Thermage แต่เจ็บน้อยกว่า ทำให้เหมาะสำหรับคนที่กลัวเจ็บ แต่ก็อาจแลกมาด้วยผลลัพธ์ที่อยู่ได้สั้นกว่า
Ulthera SPT: มักถูกจัดว่า เจ็บที่สุด ในกลุ่มนี้ ลักษณะความเจ็บจะเป็นแบบ "ปวดลึกๆ" หรือ "แปล๊บๆ เหมือนเข็มทิ่มลึก" โดยเฉพาะบริเวณแนวกรามและโหนกแก้ม เนื่องจากพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ที่อยู่ใกล้กระดูก (แม้ว่ารุ่น SPT จะช่วยลดความเจ็บลงกว่ารุ่นเก่าแล้วก็ตาม)
HIFU (Ultraformer III): ความรู้สึกคล้าย Ulthera (ปวดลึกๆ) แต่โดยทั่วไป ความเจ็บจะน้อยกว่า Ulthera
Sofwave: ความรู้สึกจะเป็น "ความร้อนที่ผิวชั้นกลาง" ไม่ลึกเท่า Ulthera หรือ Thermage ความเจ็บอยู่ในระดับปานกลางและทนได้ง่าย โดยทั่วไปจะมีการทายาชาก่อนทำ
3. ข้อเท็จจริงที่ต้องรู้: แพงกว่าไม่ได้แปลว่าดีกว่า
3.1 ความเสี่ยงจากการใช้พลังงานเกิน (Burn Risk)
การทำหัตถการยกกระชับด้วยความร้อนทุกชนิด (RF หรือ Ultrasound) ต้องอาศัยความแม่นยำสูง การยิงช็อต (Shots) ที่มากเกินความจำเป็นหรือการตั้งค่าพลังงานที่ไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงได้
ความเสี่ยงหลัก: การสะสมความร้อนที่มากเกินไปในชั้นผิวหนังอาจนำไปสู่การ เกิดรอยไหม้ (Skin Burn) หรือ ผิวหนังเสียหายอย่างถาวร ได้
ทางออก: การมีระบบ Real-time Visualization (เช่นใน Ulthera) ช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นผิวขณะยิงเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความแม่นยำในการส่งพลังงานสู่ชั้น SMAS
3.2 ความคุ้มค่าคือความเหมาะสม (The Right Tool for the Job)
การเลือกหัตถการที่ 'แพงกว่า' ไม่ได้แปลว่า 'ดีกว่า' เสมอไป เพราะหากเทคโนโลยีนั้นไม่ตรงกับปัญหาหลักของผิวคุณ ก็อาจเป็นการจ่ายเงินที่สูญเปล่า
ตัวอย่าง: หากปัญหาหลักของคุณคือ ผิวหย่อนคล้อยน้อยและมีไขมันสะสมเยอะ การเลือก Thermage FLX (RF ที่ช่วยสลายไขมัน) อาจให้ผลลัพธ์ที่ตรงจุดและคุ้มค่ากว่าการเลือก Ulthera (Ultrasound ที่เน้นยกกระชับชั้น SMAS)
ความเจ็บ: Oligio อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า Thermage สำหรับคนที่กลัวเจ็บ แม้ว่าผลลัพธ์อาจจะอยู่ได้สั้นกว่า แต่หากมีเวลาเข้าคลินิกบ่อย ๆ ก็คุ้มค่า
4. บทสรุป: ปรึกษาแพทย์เพื่อความแม่นยำสูงสุด
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุด แพทย์จะต้องประเมิน:
สภาพผิวและความหย่อนคล้อยของคุณ: ปัญหาหลักเกิดที่ชั้นผิวใด (Dermis, ไขมัน, หรือ SMAS)
ความหนาของชั้นไขมัน: เพื่อเลือกเทคโนโลยีที่สามารถส่งพลังงานผ่านชั้นไขมันไปถึงชั้นเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
เทคโนโลยีและปริมาณช็อตที่เหมาะสม: เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมพลังงานที่มากเกินความจำเป็น
ที่ ADORA Clinic เราเน้นย้ำถึงการประเมินอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกทำหัตถการ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกการลงทุนของคุณนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สวยงาม ปลอดภัย และยั่งยืนที่สุดครับ
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line Official: @adora_clinic หรือโทร 080-8882656










Comments