จบปัญหา "หลุมสิว" กวนใจ! Reskin MFR นวัตกรรมกู้ผิวเรียบเนียนที่ ADORA Clinic
- Adora Clinic
- 6 days ago
- 2 min read
สวัสดีค่ะชาว ADORA Clinic และเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาตัวช่วยกู้ผิว โดยเฉพาะปัญหา "หลุมสิว" ที่กวนใจกันมานาน ไม่ว่าจะเป็นหลุมสิวที่เพิ่งเริ่มเป็น หรือเป็นมานานแล้วก็ตาม วันนี้เรามีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่คลินิกเลือกใช้ Reskin MFR ที่จะมาปฏิวัติการรักษาหลุมสิวและฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง
Reskin MFR คืออะไร? รู้จักเทคโนโลยีที่เกิดมาเพื่อ "สร้างผิวใหม่"
Reskin MFR คือนวัตกรรมในกลุ่ม Microneedle RF (Fractional Radiofrequency) หรือการใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ผ่านหัวเข็มขนาดเล็กมาก (Microneedle) ที่ออกแบบมาเพื่อการฟื้นฟูผิวโดยเฉพาะ
หลักการทำงานของ Reskin MFR (How it works?)
อธิบายง่ายๆ คือ เครื่อง Reskin MFR จะใช้หัวเข็มที่เล็กมากๆ (เล็กกว่าเส้นผม) ปล่อยลงไปใต้ผิวหนังอย่างแม่นยำด้วยระบบ "Stepping Motor Driving" ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้การลงเข็มนั้นนุ่มนวล แม่นยำ และสม่ำเสมอ
เมื่อเข็มลงไปถึงชั้นผิวที่ต้องการ (เช่น ชั้นหนังแท้ที่มีคอลลาเจนและพังผืด) เครื่องจะปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ออกมาที่ปลายเข็ม พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นนี้จะทำงาน 2 อย่างพร้อมกัน:
ทำลายพังผืด (Fibrosis): ความร้อนจะเข้าไปสลายพังผืดแข็งๆ ที่รั้งผิวให้เป็นหลุม (ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของหลุมสิว)
กระตุ้นคอลลาเจน: ความร้อนที่ควบคุมได้นี้ จะไปกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ (Wound Healing Response) ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่อย่างมหาศาล ผิวจึงฟูขึ้นและเรียบเนียนขึ้นจากภายใน
นอกจากนี้ Reskin MFR ยังมีฟังก์ชันช่วย "ผลักสารอาหาร" หรือยา (Drug Delivery) ลงสู่ผิวไปพร้อมกันได้ ทำให้การบำรุงล้ำลึกและเห็นผลไวยิ่งขึ้นค่ะ
ช่วยแก้ปัญหาอะไร? เทียบกับหัตถการอื่นยังไง?
Reskin MFR ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการปัญหาผิวที่หลากหลาย โดยเฉพาะ:
ปัญหาหลุมสิว (Acne Scars)
รูขุมขนกว้าง (Enlarged Pores)
ผิวไม่เรียบเนียน (Uneven Skin Texture)
ริ้วรอยตื้นๆ (Fine Lines)
ผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย (Mild Sagging)
ซึ่งในที่นี้เราจะมาพูดถึงปัญหาหลุมสิวกันนะคะ
เทียบชัดๆ: Reskin MFR vs หัตถการรักษารูขุมขนและหลุมสิว
นี่คือส่วนสำคัญที่ช่วยในการตัดสินใจค่ะ:
เทียบกับ Fractional CO2 Laser
CO2 : เป็นการยิงเลเซอร์ "กรอผิว" ชั้นบน (Ablative) ซึ่งผลลัพธ์ดี แต่ข้อเสียใหญ่คือ "Downtime นานมาก" (หน้าแดงจัด, สะเก็ดชัด, พักฟื้น 5-7 วัน) และมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดรอยดำ (PIH) โดยเฉพาะกับผิวคนเอเชีย
Reskin MFR : ฉลาดกว่า เพราะเข็มจะนำพลังงาน RF ลงไปทำงาน ใต้ผิว โดยตรง โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน จึงได้ผลกระตุ้นคอลลาเจนที่ดี แต่ Downtime สั้นกว่ามาก (อาจแดง 1-3 วัน) และความเสี่ยงเกิดรอยดำต่ำมาก
เทียบกับ Morpheus 8
Morpheus 8: เป็น Microneedle RF ที่ดังเรื่องพลังงานลงลึกถึงชั้นไขมัน จึงมักเน้นเรื่อง "ยกกระชับ" และสลายไขมันกรอบหน้า
Reskin MFR: เป็น Microneedle RF ที่แม่นยำสูงเช่นกัน แต่โดดเด่นและ เน้นการรักษา "หลุมสิว" "รูขุมขน" และ "ผิวแตกลาย" ในชั้นหนังแท้โดยเฉพาะ
สรุปข้อดี-ข้อด้อย (Pros & Cons) ของ Reskin MFR
เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วน เรามาดูทั้งสองด้านเพื่อการตัดสินใจที่ง่ายขึ้นค่ะ
ข้อดี (Pros) ที่ทำให้ Reskin MFR โดดเด่น
Downtime สั้น: ไม่ต้องลางาน หลังทำอาจมีรอยแดงอมชมพู 1-3 วัน ซึ่งหายไว
เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก: แม้การรักษาหลุมสิวจะต้องทำต่อเนื่อง แต่คุณจะสังเกตเห็น "ความเปลี่ยนแปลง" ของผิวที่เรียบเนียนขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
ปลอดภัยทุกสีผิว: ลดความเสี่ยงรอยดำหลังทำ (PIH) ที่เป็นปัญหาใหญ่ของคนเอเชีย
แม่นยำและเจ็บน้อยกว่า: ด้วยระบบ Stepping Motor ทำให้การลงเข็มสม่ำเสมอและนุ่มนวล
แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ: ทำลายพังผืดที่เป็นตัวรั้งหลุมสิว ไม่ใช่แค่การกระตุ้นคอลลาเจนเพียงอย่างเดียว
ข้อควรรู้ (Cons / Considerations) ก่อนตัดสินใจ
ความรู้สึกขณะทำ: แม้จะมีแปะยาชา แต่ก็อาจจะรู้สึกเจ็บบ้างเล็กน้อยในบางบริเวณ (ความเจ็บระดับที่ทนได้ค่ะ)
อาการหลังทำ: หลังทำทันทีจะมีอาการบวมแดงและรู้สึกร้อนผ่าวที่ผิว ซึ่งเป็นอาการปกติ
การทำต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด: การรักษาหลุมสิวเป็นการรักษาต่อเนื่อง แม้ว่าโดยทั่วไปจะแนะนำคอร์ส 3-5 ครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด แต่ดังที่กล่าวไป ความเปลี่ยนแปลงมักจะเริ่มเห็นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
สำหรับเคสหลุมสิวตื้น (Shallow Scars): ในกรณีที่ลูกค้ามีปัญหาหลุมสิวไม่ลึกมาก หากทำเพียงครั้งเดียวแล้วพึงพอใจในผลลัพธ์ ก็สามารถหยุดการรักษาได้เช่นกันค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
ใครเหมาะกับ Reskin MFR? (เจาะลึกเคสหลุมสิว)
กลุ่มลูกค้าที่เหมาะมากๆ คือผู้ที่มีปัญหาผิวและหลุมสิว สามารถทำได้ทุกช่วงอายุ ไม่ว่าจะเป็นหลุมสิวที่เพิ่งเริ่มเป็น หรือเป็นมานานแล้ว (Persistent Scars) ก็สามารถรักษาและฟื้นฟูให้ดีขึ้นได้ค่ะ
โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหา:
มีปัญหา "หลุมสิว" ทุกประเภท
รูขุมขนกว้าง ผิวไม่ละเอียด
เริ่มมีริ้วรอยตื้นๆ
ต้องการฟื้นฟูผิวให้แน่นฟู ดูสุขภาพดี แต่ไม่อยากพักฟื้นนาน
Reskin MFR จัดการหลุมสิวแต่ละประเภทได้อย่างไร?
Reskin MFR ถือเป็น "Game Changer" เพราะมันจัดการหลุมสิวได้เกือบทุกประเภท โดยเฉพาะ 3 ประเภทหลัก:
Ice Pick Scars (หลุมสิวแบบจิก/ลึก):
ลักษณะ: หลุมแคบแต่ลึกมาก
Reskin MFR ทำอะไร: ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในรูหลุมที่ลึกได้ดี
Rolling Scars (หลุมสิวแบบคลื่น/แอ่ง):
ลักษณะ: หลุมตื้นๆ กว้างๆ ขอบไม่ชัด ดูเป็นคลื่น
Reskin MFR ทำอะไร: เข็มและพลังงาน RF จะลงไป "ตัดเลาะพังผืด" (ทำ Subcision) และกระตุ้นให้ผิวฟูเรียบขึ้นมา
Boxcar Scars (หลุมสิวแบบกล่อง):
ลักษณะ: หลุมที่มีขอบชัดเจน ก้นหลุมแบน
Reskin MFR ทำอะไร: พลังงาน RF จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่จาก "ก้นหลุม" ให้ฟูเติมเต็มขึ้นมา ทำให้ขอบหลุมดูเบลอลง
เคล็ดลับจากทีมแพทย์ Adora Clinic: สำหรับเคสหลุมจิก (Ice Pick) ที่ลึกมากๆ ซึ่งรักษาได้ยาก ทีมแพทย์ ADORA Clinic อาจแนะนำให้ทำ Reskin MFR ร่วมกับ หัตถการอื่น เช่น "Subcision: คือการที่แพทย์ใช้เข็มพิเศษ "เซาะ" พังผืดใต้ผิวด้วยมือ" เพื่อคลายการดึงรั้งของหลุมสิว ก่อนที่จะใช้ Reskin MFR กระตุ้นผิวโดยรวมให้เรียบเนียนขึ้น วิธีนี้จะช่วยให้ผลลัพธ์การรักษาหลุมสิวประเภทนี้ดีที่สุดค่ะ
เริ่มต้นกู้ผิวเรียบเนียนกับ ADORA Clinic
การมีผิวที่ดีขึ้น ไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริงอีกต่อไปค่ะ การรักษาหลุมสิวต้องใช้เวลาและความเชี่ยวชาญของแพทย์ในการประเมิน
สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ และรู้สึกว่า "นี่แหละ! คือสิ่งที่ตามหา" ADORA Clinic ขอมอบข้อเสนอสุดพิเศษ
✨ โปรโมชั่นทดลองเครื่อง Reskin MFR ครั้งแรก ✨ ในราคาเพียง 2,990 บาท
เพื่อเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การฟื้นฟูผิวระดับพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงได้
ปัญหาผิวและหลุมสิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่าลังเลที่จะเข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรา เพื่อให้เราช่วยออกแบบการรักษาที่เหมาะกับคุณที่สุดค่ะ
นัดหมายปรึกษาแพทย์ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
LINE: @adora_clinic
มาบอกลาหลุมสิว แล้วเริ่มต้นมีผิวใหม่ที่เรียบเนียนขึ้นไปด้วยกันนะคะ!
Credit & Reference from INNO AESTHETICS Website
Comments